วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ยิ้มละลายโศก?

การยิ้ม ไม่ใช่สมบัติของผู้ที่มีความสุข ผู้ที่มีความสำเร็จในทุกสิ่ง หรือผู้ที่ร่ำรวยเงินทอง บริวารต่างๆ เท่านั้น แต่ ผู้ที่มีความทุกข์ใจ ก็สามารถมีรอยยิ้มอันสดใสได้...ดังนิทาน ที่ผมจะขอเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ..
นานมาแล้วครับ ได้มีผู้หญิงชาวบ้านคนหนึ่งที่มีชีวิตอันโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของสามีอันเป็นที่รัก เนื่องจากการทำหน้าที่เป็นทหารตามชายเดน แต่เธอผู้นี้ยังต้องแบกรับภาระของครอบครัวทั้งหมด ไหนจะค่าเล่าเรียนของลูกชายทั้ง 2 คน ที่เพิ่งเรียนอยู่ระดับประถม 1 คน และ ระดับมัธยมต้น 1 คน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน หรือค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ละเดือนอีกมากมาย ดังนั้น เธอจำเป็นต้องออกไปหางานทำ เพื่อนำรายได้มาจุนเจือครอบครัวของเธอต่อไป....
เช้าวันหนึ่งเธอ ได้เดินไปที่ตลาด เพื่อไปถ่ายรูปที่ใช้ในการสมัครงาน.....ยิ้ม หน่อยสิครับ คุณนาย "เสียงช่างถ่ายภาพ ตะโกนบอกหญิงผู้นี้ให้ยิ้ม" ถ้าคุณได้รู้ว่า ชีวิตของฉันผ่านเรื่องร้ายอะไรมาบ้าง คุณจะไม่บอกให้ฉันยิ้มเลย เพราะถึงอย่างไรฉันก็ยิ้มไม่ได้อยู่แล้ว...."หญิงผู้นี้ก็โต้ตอบกลับทันที" ทันใดนั้น ช่างถ่ายภาพก็กล่าวประโยคหนึ่งขึ้นมาว่า...คุณนายครับ ผมทราบดีครับว่าคุณนายผ่านเรื่องร้ายๆๆ ในชีวิตมาเยอะ แต่เพื่อประโยชน์ของคุณนายในการสมัครงานเอง คุณนายต้องฝืนใจยิ้มครับ เพราะไม่มีห้างร้าน หรือ บริษัทใดเลยที่ต้องการคนที่โชคร้าย มีทุกข์ มีแต่ความเศร้าเข้ามาทำงาน ขืนเป็นอย่างนั้นเค้าได้เจ้งกันแน่ครับ....หญิงผู้นี้จึงได้ฝืนใจยิ้มทันที....ว้าว! คุณนายครับ คุณนายรู้ไหมยิ้มคุณนายสวยมากเลย เห็นแล้วรู้สึกดี และมีความสุขมากๆๆ ครับ คุณนายยิ้มบ่อยๆๆนะ ผมเชื่อแน่นอนว่าคนรอบข้างก็คงชอบเหมือนผมในขณะนี้แหระ...ช่างภาพกล่าว
ตั้งแต่วันนั้น หญิงชาวบ้านคนนี้ ได้ฝืนยิ้มหน้ากระจกทุกวัน และทุกครั้งที่เธอยิ้ม ตัวเธอเองก็พลอยสุขใจไปด้วย ไม่นานเธอได้ลืมความเศร้าโศกเสียใจจนหมดสิ้น คงเหลือไว้เพียงรอยยิ้มที่แสนหวานของเธอเอง และวันนี้เธอไม่ได้ฝืนยิ้มอีกต่อไป เพราะยิ้มของเธอออกมาเองจากภายใน จากธรมชาติของเธอ ที่สำคัญเธอยังเชื้อเชิญคนรอบข้างให้ฝึกยิ้มบ่อยๆๆ เป็นอุปนิสัย....เรื่อยมา
***เห็นไหมครับท่านผู้อ่าน ดังที่มีคำกล่าวที่ว่า...ยิ้มละลายโศกนั้น เป็นอย่างไร เมื่อพวกเราได้เห็นประโยชน์ที่มากมายของ การยิ้ม แล้วนั้น....เรามายิ้มกันดีกว่าเนอะ ยิ้มเลยครับ ยิ้มตอนนนี้...นั่นแน่ เห็นไหมหล่ะ มีความสุขทันที แล้วมองไปยังเพื่อนที่นั่งข้างๆๆ สิครับ ...เรีกชื่อเค้า 1 ที จากนั้นยิ้มให้เค้างามๆๆครับ...โอ เค..แจ๋วมากครับ ทำอย่างนี้บ่อยๆๆ นะครับ...บรรยากาศของการทำงาน ของการใช้ชีวิตในแต่ละวันจะได้เต็มไปด้วยความเบิกบานครับ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีรับคำแนะนำครับ